ผมอยู่กับเสียงเบสมาตลอดชีวิต
เห็นกี่รุ่นกี่ก้อนที่บอกว่า “ตัวจบ”
แต่มีไม่กี่ตัวที่พอเล่นจริงแล้ว กล้าพูดเต็มปากว่า “จบจริง”
— Darkglass Anagram คือหนึ่งในนั้นครับ
วันนั้นผมนั่งอยู่ในร้านตอนค่ำ ๆ
เสียบเบสเข้าช่อง Input เสียบหูฟัง จิ้มโน้ตแรก…
เสียงมันออกมาแบบที่ผมรู้สึกได้ทันทีว่า “นี่คือของจริง”
หน่วงต่ำจนเหมือนไม่มีดีเลย์ — พอเช็กจริง ๆ คือแค่ 1.2–1.3 ms
ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่หูคนเราจะรู้สึกได้ (ปกติอยู่ที่ 5–10 ms)
นี่แหละครับ ทำไมพี่ถึงมั่นใจว่า มันพร้อมทั้งบนเวทีและในสตูดิโอจริง ๆ
⸻
มันไม่ใช่เอฟเฟคธรรมดา แต่มันคือ “เวิร์กสเตชันเบส”
ขนาดเท่ากล่องอาหารกลางวัน แต่ข้างในคือคอม 6 คอร์
• เสียงตอบนิ้วสุด ๆ – หน่วงเพียง 1.2 ms ต่ำกว่าที่หูจะจับได้
หมายความว่าทุกโน้ตที่คุณเล่นจะ “ทันใจ” และ “แม่นยำ” เหมือนเสียงมาจากสายตรง
• จอสัมผัส 7 นิ้ว + ปุ่มหมุน 6 ตัว
หมุน กด รีเซ็ตค่าได้ไว หน้างานไม่ต้องก้มวุ่น
• สวิตช์ 3 ตัว = 3 โหมดจริงจัง
• Stomp – เปิด/ปิดก้อนแบบบอร์ดแอนะล็อก
• Scene – กดทีเดียวเปลี่ยนสถานะทุกก้อน
• Preset – ยกทั้งบอร์ดใหม่ในคลิกเดียว
• Routing อิสระสุด ๆ
แยกเชนเสียง 2 เส้น — เสียงคลีนออก XLR, เสียงแตกออก TS ได้
จะ Split / Merge สัญญาณก็ได้สูงสุด 24 บล็อก
• Global EQ ที่ละเอียดระดับสตูดิโอ
ปรับได้ครบทุกย่าน รวมถึง Mid-Range แบบ Sweepable
คือเลือก “ย่านกลาง” ที่จะปรับได้ด้วยตัวเอง เช่น 400Hz / 800Hz / 1.2kHz
ทำให้ฟาดทะลุกีตาร์หนา ๆ ในมิกซ์ได้โดยไม่ต้องเร่ง Volume
• NAM / Neural Amp Modelling
เทคโนโลยีที่จับ “เสียงจริงของแอมป์” มาทั้งโทนและแรงนิ้ว
โหลดไฟล์ NAM หรือ IRDAX จากหัวแอมป์โปรดของคุณได้ทันที
• Pitch Shifter เนียนสุด ๆ
ดรอปคีย์ C หรือ B ได้โดยไม่ต้องตั้งสายใหม่ โทนยังชัด
• ใช้ได้กับทุกเบส
ทั้ง Active และ Passive — ผมลองกับ Fender Jazz Bass Passive ตัวเก่า
ปรากฏว่า “Dynamic ที่เคยหายไป” ตอนใช้ก้อนเก่ามันกลับมาหมดเลย
⸻
มือเบสหลายคนกลัวว่าใส่ Distortion แล้วเสียง “บวม” หรือ “ย่านต่ำหาย”
แต่ Anagram จัดการได้ฉลาดมาก
ในเชนเสียงแตกจะมี ระบบ Crossover + High Pass Filter อัตโนมัติ
แยกย่าน Sub-Bass ออกก่อนเข้า Distortion
จากนั้น Blend กลับกับสัญญาณคลีนได้ละเอียดระดับเปอร์เซ็นต์
ทำให้ย่านต่ำยังแน่นแต่ไม่บวม และย่านกลางยังชัดฟาดได้ในวง
แม้จะใส่ Gain หนักแค่ไหน “โน้ตสาย B ยังชัดทุกลูก”
หัว Attack ของ Slap ยัง “ดีดขึ้นมา” ชัด ไม่ถูกอัดหาย
นี่คือสิ่งที่แยก Anagram ออกจากมัลติเอฟเฟคทั่วไป —
มันรักษา “Integrity ของ Low-End” ได้ครบทุกย่าน
⸻
Anagram ใช้พลังงาน 9V / 2A เต็ม ๆ
ห้ามแชร์ไฟกับก้อนอื่นเด็ดขาด
ถ้าไฟไม่ถึง เสียงจะเพี้ยน หน่วง และอาจดับกลางกิ๊กได้เลย
ใช้ อะแดปเตอร์ที่ให้มา หรือ USB-C 18W จาก Power Bank คุณภาพดีเท่านั้น
⸻
หลายคนถามพี่ว่า “XLR ของมันดีพอจะเป็น DI หน้างานไหม?”
คำตอบคือ — ดีมากกว่าที่คิดครับ
สัญญาณจาก XLR ของ Anagram ใส สะอาด และมีไดนามิกเทียบได้กับ DI Box เกรดโปรระดับ Radial / Rupert Neve
ต่อเข้า FOH ตรงได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกล่องแปลงใด ๆ
คือคุณได้ “DI คุณภาพสูง” แถมมาพร้อมในตัวเครื่องเดียว
⸻
วันนั้นผมลองเอา Fender Jazz Bass Passive ตัวเก่า มาลองกับ Anagram
ตีคอร์ดแรก… หัวโน้ตชัดขึ้นแบบที่ก้อนเก่าผมให้ไม่ได้
ผมหัวเราะในใจ “อ้าวเฮ้ย… ตัวนี้มันทำให้เบสเก่าผมฟื้นชีวิตอีกครั้ง”
แล้วก็คิดได้ว่า — ของบางอย่าง มันไม่ได้แพงเพราะฟังก์ชัน
แต่มันแพงเพราะ “มันรู้จักเรา” มากพอที่จะไม่ทำให้เราหายไปในเสียงนั้น
⸻
• มือเบสที่อยาก จบในก้อนเดียว
• คนที่เล่นกิ๊กบ่อย อยากพกเบาแต่เสียงใหญ่
• นักดนตรีที่อยากอัดตรงเข้า Interface โดยไม่เสียความรู้สึกของนิ้ว
• หรือใครที่อยากได้ “เสียงตัวเอง” กลับมาอีกครั้ง
⸻
“ของแบบนี้ไม่ต้องรีบซื้อ…แต่ถ้าได้ลอง แล้วมันพูดกับคุณถูกใจ
คุณจะไม่อยากกลับไปใช้บอร์ดเดิมอีกเลย”
ลองมาหาคำตอบด้วยตัวคุณเอง
พิกัดสำหรับดูรายละเอียดและสั่งซื้อ พี่เล็กปักหมุดไว้ที่คอมเมนต์แรกแล้วครับ























































