⸻
เสียงฟ้าร้องดังขึ้นจนกระจกสั่น 
มายด์เงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง — ฝนตกหนักอีกแล้ว
เธอบ่นเบา ๆ ขณะเดินไปเก็บกีตาร์ตัวเล็กเข้ากล่อง
“มายด์ ไปเปิดเครื่องดูดความชื้นหน่อย”
“แล้วก็ปรับแอร์เป็นโหมด Dry ด้วยนะ G”
เสียงเครื่องดูดความชื้นเริ่มทำงานเบา ๆ ในมุมห้อง
ไอเย็นจากแอร์ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นอากาศแห้งสบาย 
“ตอนฝนตก ความชื้นในอากาศมันขึ้นสูง บางวันแตะเกือบ 100% เลยนะ”
“กาวที่ยึดไม้กีตาร์ไว้ มันจะเริ่มคลายตัว”
“ไม้หน้าก็จะโป่งขึ้น เสียงจะทึบลง เหมือนมันกำลังหายใจไม่ออก”
“ไม้ทุกแผ่นในร้านนี้…มันฟังอากาศได้ดีกว่าคนอีก” 
“แปลว่า…แค่ฝนตก กีตาร์ก็ป่วยได้เหรอคะ”
“ใช่… เพราะมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องหายใจในอากาศดี ๆ เหมือนเรา” 
“แล้วถ้าผมอยู่ห้องเช่า ไม่มีเครื่องดูดความชื้นล่ะครับ?”
“ก็ใช้ Boveda สิ ซองเล็ก ๆ แต่คุมความชื้นได้เป๊ะ”
“มันดูดและคายความชื้นได้เอง — รักษาไว้ที่ 49% พอดี”
“ของแบบนี้…เงียบ แต่ช่วยให้เสียงอยู่กับเราไปอีกนาน” 
⸻
หยิบ Fender CD-60S ตัวเก่า ลงมาอย่างเบามือ 
“มานี่…จะให้ดูของจริง”
เขาวางกีตาร์ลงบนโต๊ะกลางร้าน
แล้วเปิดลิ้นชัก หยิบซองเล็ก ๆ สีน้ำตาลออกมาหลายซอง
“นี่แหละ… Boveda” 
เสียงฝนยังคงตกอยู่ข้างนอก แต่ในร้านเงียบจนได้ยินเสียงกีตาร์วางบนโต๊ะ
⸻
(พี่เล็กหยิบถุงผ้าเล็ก ๆ มาสวมให้ดู)
(เขาวางเรียงซอง 4 ใบไว้บนโต๊ะ เหมือนจัดเครื่องดนตรี)
– ซองหนึ่งวางตรงคอ อีกซองสอดไว้ใต้สาย
– พี่เล็กปิดฝากล่องเบา ๆ แล้วพูดต่อว่า
“อย่าให้มันโดนกดทับตอนปิด…ให้มันได้หายใจ” 
“ถ้ามันเริ่มแข็ง หรือจับแล้วแน่น ๆ แปลว่ามันดูดจนเต็มแล้ว เปลี่ยนใหม่ก็พอ” 
⸻
มายด์มองมือพี่เล็กที่กำลังจัดซอง Boveda เหมือนจัดเครื่องประดับให้กีตาร์
แสงไฟสีอุ่นสะท้อนบนไม้ขัดมันเป็นประกาย 
“เสียงดี…ไม่ใช่แค่ดีตอนซื้อใหม่
แต่มันคือเสียงที่ยังไม่เปลี่ยน…แม้ฝนจะตกทั้งคืน” 
เสียงฟ้ายังดังอยู่ข้างนอก
แต่ในร้านเล็ก ๆ แห่งนั้น เสียงดีดเบา ๆ ของ G กลับใสจนเหมือนฝนหยุดแล้ว 
⸻
⸻
บางครั้งฝนไม่ได้ทำให้กีตาร์เปียก…
แต่มันทำให้ “เสียง” ของเราเริ่มเงียบลงโดยไม่รู้ตัว 





















































