แฟนคลับตรึม! ถ้ารู้จักกีต้าร์โปร่งและเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งเป็น หน้าใหม่ก็เก่งได้

รู้ไหมว่าคนเล่นกีต้าร์เป็นเขาว่ามีเสน่ห์ อย่างที่เราเคยเห็นคนเล่นกีต้าร์โปร่งแล้วบรรเลงเพลงออกมาเป็นเพลงแนวอะคูสติกลงในยูทูป จนสามารถเรียกยอดวิวได้อย่างล้นหลาม กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเพียงชั่วข้ามคืน แถมยังสามารถแต่งเพลงฮิตจนคนร้องตามได้ มีแฟนคลับเป็นของตัวเองอย่างน่าภาคภูมิใจ  ถ้าเราอยากเป็นแบบนั้นบ้าง แต่ยังเป็นนักเล่นกีต้าร์โปร่งมือใหม่ที่พึ่งเริ่มต้นเรียนรู้คอร์ดแต่ละคอร์ดว่าต้องทำอย่างไรอยู่นั้น เราก็อยากจะแนะนำให้รู้จักกีต้าร์ในเบื้องต้นให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อน ว่ามีอะไรที่เราควรรู้เอาไว้บ้าง เพื่อให้เรามีความรู้เกี่ยวกับกีต้าร์เป็นอย่างดี จะได้มีแนวทางและความรู้ในการเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งที่เหมาะสมกับตัวเองได้

รู้จักกีต้าร์โปร่งคืออะไร

ถ้าอยากเก่งกีต้าร์โปร่งหรือที่เรียกกันว่ากีตาร์อคูสติก เราต้องเริ่มต้นตั้งแต่ศึกษาเครื่องดนตรีชนิดนี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ให้เสียงอันไพเราะออกมาได้อย่างไร จะทำให้เรานั้นเล่นกีต้าร์ได้อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งกีตาร์อคูสติกนั้น เป็นเครื่องดนตรีที่ส่งเสียงออกมาจาก แรงสั่นในอากาศอันเกิดจากการดีดสายหรือเกาสายเพื่อส่งผ่านแรงสั่นไปยังโครงกีต้าร์ จนแผ่นไม้หน้าสั่นสะเทือนกับอากาศที่อยู่รอบๆ แล้วส่งเสียงออกมาเป็นเสียงกีต้าร์ได้ หากโครงของกีต้าร์ทำมาจากเนื้อไม้อย่างดี ก็ยิ่งทำให้เสียงออกมามีความไพเราะมากยิ่งขึ้น ให้ความนุ่มลึกของเสียงน่าฟังเป็นพิเศษ

กีต้าร์โปร่งมีแบบไหนบ้าง

กีต้าร์โปร่งธรรมดา (ไม่ใช้ไฟฟ้า)

เหมาะสำหรับนักเล่นกีต้าร์โปร่งมือใหม่หรือคนที่ชอบความคลาสสิก ไม่ต้องการต่อสายอะไร ก็สามารถเล่นได้เลย เล่นง่ายๆ ที่บ้านหรือเล่นเพื่ออัดวิดีโอลงยูทูปแบบทั่วไปก็ได้

กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า

เหมาะสำหรับนักเล่นดนตรีมืออาชีพหรือคนที่ต้องการคุณภาพเสียงกีต้าร์ที่ดีกว่า ให้เสียงดังกว่า อย่างการออกไปเล่นดนตรีตามร้านอาหาร ที่ต้องการความดังที่มากกว่า หรือหากอัดเสียงลงบนยูทูป ก็จะได้วิดีโอที่มีเสียงกีต้าร์คุณภาพดีกว่ามาก ช่วยสร้างการติดตามช่องยูทูปได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ทำความรู้จักกีต้าร์โปร่งแต่ละส่วน

1. แผ่นไม้หน้า (Top/Soundboard)

แผ่นไม้ที่เป็นตัวช่วยทำให้เกิดเสียง ชนิดของไม้ที่นำมาทำเป็นกีต้าร์ก็มีผลต่อเสียง ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กีต้าร์แต่ละตัวมีความไพเราะแตกต่างกัน ซึ่งแรกเริ่มนั้นนักเล่นกีต้าร์โปร่งมือใหม่อาจจะยังแยกเสียงไม่ค่อยออก ต้องอาศัยประสบการณ์ในการฟังไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มแยกออกว่ากีต้าร์แบบไหนเสียงเพราะ

2. แผ่นไม้หลัง (back) และไม้ข้าง (sides)

เป็นตัวช่วยสะท้อนเสียงให้ก้องกังวาน ไปทั่วทั้งกีต้าร์ ทำให้กีต้าร์โปร่งแต่ละตัวมีความแตกต่างของเอกลักษณ์เสียงเพิ่มมากยิ่งขึ้น

3. คอ (neck)

เป็นส่วนที่ทำให้เราจับคอร์ดได้ เพิ่มความแตกต่างของเสียงให้เป็นในรูปแบบคอร์ดเสียงที่เราต้องการได้ แล้วยังเป็นส่วนที่ช่วยให้นักเล่นกีต้าร์โปร่งมือใหม่ประคองกีต้าร์ได้อย่างสบายยิ่งขึ้นอีกด้วย

4. เฟรท (frets)

เป็นก้านโลหะแท่งเรียวยาวที่คอยกั้นแต่ละช่องเอาไว้ สำหรับให้เราสามารถกำหนดโน้ตของกีต้าร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้เสียงที่ออกมามีโน้ตเสียงที่แตกต่างกันออกไป

5. นัท (nut)

เป็นแท่งสี่เหลี่ยมยกสูงขึ้นมาเล็กน้อยซึ่งอาจจะทำมาจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห์ก็ได้ อยู่ตรงส่วนปลายสุดของหัวกีต้าร์ ใกล้กับลูกบิดที่เราปรับจูนเสียง มีไว้สำหรับรองรับน้ำหนักแรงกดของสายกีต้าร์

6. ลูกบิด (machine heads/tuners)

ส่วนปลายสุดของหัวกีต้าร์โปร่งถัดจาก นัท (nut) ก็จะมีโลหะ 6 ชิ้น เป็นตัวช่วยยึดสายกีต้าร์ให้ตึงหรือหย่อนได้ มีไว้ให้เราสามารถสำหรับปรับจูนเสียงกีต้าร์ให้เป็นอย่างที่เราต้องการ

7. แซดเดิล (saddles) และ ไม้หย่อง (bridge)

ใกล้ๆ กับจุดที่เราดีดกีต้าร์หรือตรงส่วนตัวกีตาร์นั่นเอง ก็จะมีแซดเดิล เป็นแท่งสี่เหลี่ยมยกสูงขึ้นมา เพื่อรองรับน้ำหนักแรงกดของสายเช่นเดียวกันกับนัท (nut) แต่แตกต่างกันตรงที่ แซดเดิลจะถูกวางอยู่บนไม้หย่องอีกที ซึ่งเป็นส่วนที่คอยยึดสายกีตาร์เอาไว้

8. ปิ๊กการ์ดกีตาร์ (pickguard)

ใกล้ๆ กับจุดที่เราดีดกีตาร์จะดูคล้ายกับแผ่นบางๆ สีดำบังแผ่นไม้เอาไว้ เพื่อลดการเกิดรอยบนตัวกีต้าร์

ประเภทของกีต้าร์โปร่ง

1. กีต้าร์คลาสสิก (Classical Guitar)

เหมาะสำหรับนักเล่นกีต้าร์โปร่งมือใหม่เป็นอย่างมาก มีที่จับกีต้าร์ค่อนข้างกว้าง จับคอร์ดง่ายและมีรูปทรงเป็นกีต้าร์โปร่งตัวเล็ก สายทำมาจากไนลอนหรือใยไหมพันด้วยเส้นโลหะ ทำให้เวลาดีดกีต้าร์นั้น ดีดได้ง่าย แล้วเวลาจับคอร์ดก็ไม่เจ็บนิ้วอีกด้วย

2. กีต้าร์โฟล์ก (Folk Guitar)

เป็นกีต้าร์ที่มีคอเล็ก แต่ตัวกีต้าร์มีขนาดใหญ่แข็งแรงทนทาน มักเป็นสายโลหะ เหมาะกับการเล่นดนตรีที่ต้องมีการเกา หรือมีการเลือกใช้ปิ๊กกีต้าร์สำหรับดีดเสียง ทำให้เสียงออกมาใส ชัดเจน น่าฟังยิ่งขึ้นกว่าเดิม

3. กีตาร์อาร์ชทอป (Archtop Guitar)

จะมีความคล้ายกับกีต้าร์โฟล์ก แตกต่างกันตรงที่สายยึดไม้หย่องจะเป็นรูปทรงแบบหางปลา ส่วนช่องที่เราดีดจะเป็นหน้าโค้ง ไม่ใช่แบบช่องกลม เหมาะสำหรับนำไปเล่นดนตรีแจ๊ซเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้เสียงดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์

4. กีตาร์ลูกผสมระหว่างกีตาร์โปร่งกับกีตาร์ไฟฟ้า (Semi Acoustic Guitar)

เป็นกีต้าร์ที่สามารถเล่นได้แบบกีต้าร์โปร่งธรรมดาและหากนำเครื่องขยายมาต่อ ก็ทำให้เล่นแบบกีต้าร์ไฟฟ้าได้ ถือว่าเป็นกีต้าร์โปร่งไฟฟ้าแนะนําสำหรับมือใหม่เลย ที่สามารถเล่นได้ทั้งสองแบบเหมาะสำหรับนำไปเล่นดนตรีเพลงบลูส์หรือแจ๊ซ

เลือกซื้อกีต้าร์โปร่งที่ไหนดี

เพราะกีต้าร์ที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่กีต้าร์ที่แพงที่สุด จึงทำให้หลายคนไม่สามารถเลือกได้ว่าควรซื้อกีต้าร์แบบไหนหรือที่ไหนดี สำหรับนักเล่นกีต้าร์โปร่งมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งที่ไหนดี สามารถเข้าไปหาซื้อบนร้านออนไลน์ได้แล้ว อย่างร้าน Myguitarshops ที่เป็นร้านยอดนิยมที่มีกีต้าร์ให้เลือกหลายแบบ หลายยี่ห้อ คัดเฉพาะกีต้าร์ที่ได้รับความนิยมสูง มีคนรีวิวให้จำนวนมาก ซึ่งการันตีได้เลยว่าจะได้กีต้าร์ที่ดีที่สุด ในราคาเหมาะสมอีกด้วย

สรุป

ถึงแม้เรายังเล่นกีต้าร์โปร่งไม่ค่อยเก่งและยังเป็นหน้าใหม่ในวงการกีต้าร์ ขอบอกเลยว่าอีกหน่อยเราสามารถเก่งขึ้นได้ เพราะถ้าคนเราได้อยู่กับสิ่งไหนเป็นประจำ ได้ฝึกฝนอะไรอยู่บ่อยๆ เราก็จะมีความถนัดเพิ่มขึ้น จนกลายเป็นคนเก่งในด้านนั้นได้ ยิ่งถ้าเราเลือกลงมือทำสิ่งใดซ้ำๆ เป็นเวลานานเกิน 10,000 ชั่วโมงขึ้นไป ยิ่งทำให้เรานั้นกลายเป็นมืออาชีพในด้านนั้นได้อย่างง่ายดาย แม้แต่การเลือกซื้อกีต้าร์โปร่ง หากเรายังไม่มีความรู้มากนัก เราค่อยๆ ให้เวลาในศึกษาเพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้เราซื้อกีต้าร์เป็นอย่างง่ายดาย หากกำลังมองหากีต้าร์โปร่งยี่ห้อไหนดีที่มีคุณภาพดี แนะนำให้คลิกชมกีต้าร์โปร่งราคาไม่แพงเสียงเพราะหลากหลายแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงได้ที่นี่ กับร้าน Myguitarshops ผู้เข้าใจหัวใจของนักเล่นดนตรี มองขาดเรื่องกีต้าร์อย่างทะลุปรุโปร่ง เพื่อคัดสรรกีต้าร์ระดับคุณภาพดีเยี่ยม ที่เหมาะกับนักเล่นกีต้าร์โปร่งมือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพที่มองหากีต้าร์โปร่งไฟฟ้าแนะนําในราคาไม่แรง